แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ tuberculosis แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ tuberculosis แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Plasmacluster zone เหมาะสำหรับคนที่ไม่ควรเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ


โซนทำลายเชื้อโรคทางอากาศ
Plasmacluster safety zone
.
สามารถทำได้เอง กำหนดพื้นที่ตามที่ต้องการ ใช้ในโรงพยาบาล โรงงาน โรงเรียน ที่ทำงาน บ้าน แม้กระทั่ง เตียงนอน
Plasmacluster zone เหมาะสำหรับคนที่ไม่ควรเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ คนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน เช่น ผู้ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจ ผู้ที่อยู่ในช่วงที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ
.
โซนทำลายเชื้อโรคทางอากาศ เป็นโซนที่เกิดขึ้นจากการเปิดเครื่องฆ่าเชื้อโรคทางอากาศ ระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster air sterilizer) ทำให้โซนที่ถูกกำหนดไว้ มีปริมาณไอออนลอยอยู่เป็นจำนวนมาก ไอออนเหล่านี้ถูกผลิตพ่นออกมาจากเครื่องอย่างต่อเนื่อง

.
พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนที่ล่องลอยในโซนนี้ จะทำลายเชื้อโรคทันที ที่เชื้อโรคเข้ามาปรากฎในโซน ไม่ว่าจากการหายใจ ไอ จาม จากคน หรือ ลมจากท่อปรับอากาศส่วนกลาง ที่ย่างกรายเข้ามาใน Plasmacluster zone แม้กระทั่งเชื้อโรคที่ติดตามผิวหนัง เสื้อผ้า ก็จะถูกพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนทำลายทันทีที่เข้ามาในโซน

.
Plasmacluster zone มีประโยชน์ในการใช้ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคเชิงรุก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคในระยะประจันหน้า ณ จุดปะทะ (ระบบกรองอากาศ หรือ UV ไม่สามารถทำได้) ... จากการศึกษาพบว่า ถึงเราจะทำความสะอาดห้องหรือสถานที่ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ เปิด UV เข้มข้น แล้วก็ตาม ห้องเหล่านี้ก็สะอาดในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อมีคนเข้ามา คนนี่แหละเป็นพาหะนำเชื้อโรคเข้าในห้องอีกครั้ง เชื้อโรคจะติดตามตัวมา หรือ การไอ จาม หายใจ ภายในห้อง ทำให้เชื้อโรคกระจายได้ใหม่ทั่วห้อง ซึ่งไม่มีอาวุธอะไรมาจัดการมัน
... อีกแหล่งเชื้อโรคหนึ่งคือ ท่อปรับอากาศส่วนกลาง ที่พ่นลมเย็นเข้ามาในแต่ละห้อง เป็นท่อกระจายเชื้อโรคดีๆนี่เอง ที่เกิดจากส่วนของมันเองที่เชื้อราเชื้อแบคทีเรียเข้ามาเจริญเติบโตภายในท่อหล่อเย็น หรือ เกิดจากเชื้อโรคที่แพร่จากคนเป็นพาหะ จากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่ง
... “ป้องกัน” ดีกว่า “รักษา” ถ้าเป็นแล้วแย่ จะแก้ไม่ทัน

.
โซนพลาสม่าคลัสเตอร์เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงการปนเปื้อนของเชื้อโรคสูง หรือ จุดที่มีการเผชิญหน้ากันของคนทำงาน หรือ ต้องการให้มีการปนเปื้อนเชื้อโรคต่ำสุด เช่น โรงพยาบาล (โดยเฉพาะ OPD/ER/ENT) , โรงงาน , โรงเรียน , office building , โรงแรม








.
Plasmacluster zone สามารถสร้างครอบคลุมพื้นที่ได้ทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็น 9 ตร.ม. หรือ มากกว่า 2000 ตร.ม. ตามรูปแบบหลากหลายของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง ณ จุดตรวจ วางบนโต๊ะ วางบนพื้น แขวนผนัง ติดตั้งในปลายท่อลม โดยสามารถสร้างโซนครอบคลุมได้ในพื้นที่ระบบเปิดหรือปิดอากาศก็ได้




.
ผลการทดสอบจาก 28 สถาบันวิจัยนานาชาติ พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนสามารถทำลายเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย รวมถึง เชื้อรุนแรงต่างๆ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เชื้อวัณโรค ด้วยการทำลายเปลือกผิวนอกของเชื้อโรค


.
งานวิจัยล่าสุดจากโรงพยาบาลวัณโรคจอร์เจีย เครือข่ายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่า Plasmacluster HD 100000 ลดความเสี่ยงลดจำนวนบุคลากรการแพทย์ที่จะติดเชื้อวัณโรคในโรงพยาบาลวัณโรค ได้ถึง 4 เท่าตัว





.
พลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนจะทำลายผิวนอกของเชื้อโรคทันทีที่ปะทะกัน แต่เราก็ต้องคำนึงถึงความรวดเร็วและระยะห่างด้วย ความเข้มข้นของพลาสม่าคลัสเตอร์ไอออนที่สูงๆเป็นตัวแปรของประสิทธิภาพ ให้สูงตามด้วย
.
การนำ Plasmacluster ใช้ตามบ้าน แค่ระดับความเข้มข้น 7000 ก็อาจเพียงพอ แต่หากมาใช้ในพื้นที่เสี่ยงสูง ควรใช้ Plasmacluster HD อย่างน้อย 25000 ไอออนต่อซีซี

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557


ในแต่ละปีทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคประมาน 2-3 ล้านคน ในจำนวนนี้จะเป็นเด็กประมาณ1 แสนคน    คาดว่าในปีพ.ศ.2563 จะมีผู้ติดเชื้อวัณโรคเพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันล้านคน และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 70 ล้านคน  
 
 
วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่สามารถแพร่กระจายทางอากาศไปสู่ผู้อื่นได้ง่าย   หลังจากที่ได้มีการค้นพบยาที่ใช้รักษาได้ผลดี และมีวัคซีนฉีดป้องกันทำให้ผู้ป่วยวัณโรคลดน้อยลง   ในปี พ.ศ.2539  ประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นวัณโรคประมาณ 8 หมื่นคน และในปี พ.ศ.2534  ผู้ป่วยลดลงเหลือ 4 หมื่นคน ต่อมาในปี พ.ศ.2535-2536  ได้มีการระบาดของโรคติดเชื้อเอชไอวีไปทั่วประเทศ ทำให้การแทรกซ้อนของวัณโรคในผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 
 
จากข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้นปีละ 5 หมื่นคนและครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในระยะแพร่เชื้อผู้ป่วยวัณโรคระยะแพร่เชื้อ 1 ราย ถ้าไม่ได้รับการรักษาสามารถทำให้คนรอบข้างติดเชื้อได้ 10 -15 คนต่อปี  และวัณโรคเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิต

องค์การอนามัยโลกได้จัดอันดับประเทศไทยอยู่เป็นลำดับที่ 17 จากกลุ่ม 22 ประเทศที่มีปัญหาด้านวัณโรค  ซึ่ง 3 อันดับแรกได้แก่ อินเดีย จีน และอินโดนีเซีย จำนวนผู้ป่วยวัณโรคในไทยเพิ่มสูงขึ้นเป็นเพราะการควบคุมการแพร่ระบาดของวัณโรคไม่ถึงเป้าหมาย   ที่สำคัญคือปัญหาผู้ป่วยกินยาไม่ต่อเนื่องจนเกิดวัณโรคสายพันธุ์ดื้อยาอย่างรุนแรง หรือ Extensively drug resistant tuberculosis (XDR-TB) ปัญหาการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  และปัญหาแรงงานต่างชาติที่เป็นวัณโรคหรือเป็นพาหะของโรคเข้ามาหางานทำในเมืองไทยกันมากขึ้น

วัณโรคหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ฝีในท้อง  เรารู้จักกันในชื่อของทีบี(TB)ซึ่งเป็นชื่อย่อของTuberculosis  เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียชื่อ Mycobacterium tuberculosis เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินหายใจในรูปละอองเสมหะ เชื้อวัณโรคจะผ่านเข้าสู่ปอดและเริ่มแบ่งตัวแพร่ต่อไป   ส่วนใหญ่ทำให้เกิดวัณโรคปอด แต่อาจแพร่กระจายไปที่อื่นๆ ในร่างกายทำให้เกิดวัณโรคที่อวัยวะนั้นๆ เช่น ผิวหนัง ต่อมน้ำเหลืองกระดูก  ข้อ ไต และเยื่อหุ้มสมอง บุคคลที่มีโอกาสติดเชื้อง่ายได้แก่ผู้สูงอายุ  ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน, ติดเหล้าและภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ในตอนแรกที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายจะยังไม่แสดงอาการ  และไม่พบความผิดปกติในเอกซเรย์ปอดแต่ในเวลาต่อมา ซึ่งอาจนานเป็นปี เมื่อวัณโรคเริ่มเป็นมากขึ้นจะปรากฏอาการอื่นให้เห็น เช่นไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ บางรายไอแห้งๆ อาจมีเสมหะสีเหลือง เขียว หรือไอปนเลือด เจ็บแน่นหน้าอก มีไข้ต่ำๆ ตอนบ่ายหรือเย็น เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย  เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

วัณโรคเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้  ในช่วง 2 เดือนแรกจะใช้ยาร่วมกัน 3-4 ชนิดหลังจากนั้นจึงลดยาเหลือ 2 ชนิดเป็นเวลาต่อไปทั้งหมด รวม 6-9 เดือนนิยมให้ยารับประทานรวมกันเวลาเดียวก่อนนอนภายหลังให้การรักษาอาการต่างๆของผู้ป่วยจะค่อยๆดีขึ้น ใน 2 สัปดาห์ และใกล้เคียงปกติภายในระยะ 2 เดือน ยกเว้นผู้ป่วยที่เชื้อดื้อยาหรือเป็นโรคมานานและได้รับการรักษาช้าจะต้องทำการรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 1 –2 ปี ยาวัณโรคในปัจจุบันหลักๆจะมีอยู่ 4 ชนิดคือ  Isoniazid, Rifampicin ,Pyrazinamide  และ Ethambutolผู้ป่วยควรกินยาครบตามที่แพทย์สั่ง ถ้ากินๆหยุดๆอาจทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อวัณโรคดื้อยาได้ จะทำให้ระยะเวลาการรักษายาวนานและรักษายากยิ่งขึ้น  ยาที่กล่าวมาในข้างต้นนี้มีผลข้างเคียงทุกตัว จึงต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์และเภสัชกร   การรักษาจะได้ผลดีต่อเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน   หมั่นดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างก็จะช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจาย และทำให้โรคนี้หมดไปจากประเทศไทยได้