แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กลิ่นอับ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กลิ่นอับ แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2561

'แอร์รถยนต์' ต้นเหตุสุขภาพพัง

'แอร์รถยนต์' ต้นเหตุสุขภาพพัง

คุณเคยได้เข้าไปนั่งในรถยนต์ทั้งของตัวเองหรือของคนรอบข้าง แล้วเกิดความรู้สึกว่ามีการอับชื้นทางอากาศตั้งแต่เริ่มขึ้นรถบ้างไหม ซึ่งแน่นอนว่า อากาศในบ้านเราก็มีทั้งอับและชื้นนี่แหละ ที่ทำให้เชื้อราและแบคทีเรียมีการเจริญเติบโตได้ง่ายดาย และยิ่งเฉพาะอย่างยิ่งช่องแอร์ที่ไม่ได้รับความสะอาดนี่แหละ ที่เป็นต้นเหตุเกิดแห่งการเติบโตของเชื้อรา ที่ทางการแพทย์เรียกว่า “Sick Car Syndrome” นั่นเอง


โดยอาการป่วยจากเชื้อรา แบคทีเรีย และฝุ่นต่างๆ ในรถยนต์ จะก่อให้เกิดอาการต่างๆ ได้แก่ ไอ, จาม, หายใจอย่างลำบาก, มีการระคายเคืองตาและจมูก จนน้ำมูก นำตาไหล, เกิดการง่วงซึม, แน่นหน้าอก, ระบบทางเดินผิดปกติ และ โรคภูมิแพ้ ซึ่งถามว่ากำจัดด้วยสเปรย์หรือน้ำยาดับกลิ่น สามารถช่วยดับกลิ่นได้หรือไม่ หากมีสูตรกำจัดแบคทีเรียก็อาจจะช่วยในระดับหนึ่ง แต่ถ้ากลิ่นของน้ำยาหมด แบคทีเรียและเชื้อราก็กลับมาใหม่ได้อยู่ดี
สำหรับวิธีที่กำจัดฝุ่น และเชื้อราในรถยนต์นั้น มีดังนี้
1.หาสาเหตุของกลิ่นอับว่า ถ้าเปิดประตูแล้วมีกลิ่นอับเลย กลิ่นที่ว่าอาจจะมาจากที่นั่ง หรือ ถ้ามีกลิ่นตอนเปิดแอร์ กลิ่นก็มาจากแอร์ ซึ่งเมื่อพบแล้วให้ทำความสะอาดทันที 
2.พยายามดูดฝุ่นเบาะนั่งเป็นประจำ โดยเฉพาะเบาะผ้า อย่าลืมดูดฝุ่นพรมที่เท้าด้วย
3.หากมีน้ำ หรือเครื่องดื่มที่เคยหกใส่เบาะหรือที่วางเท้า รีบทความสะอาด และจัดการให้แห้ง
4.อย่าฉีดสเปรย์ น้ำหอม หรือสารเคมีต่างๆ มากจนเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้ผลแย่กว่าเดิม
5.หากยังมีเชื้อราหรือกลิ่นอับชื้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

“เชื้อรา” อีกหนึ่งภัยเงียบภายในบ้าน

เชื้อรา เป็นเชื้อที่พบได้ในธรรมชาติทั้งในบ้านและนอกบ้าน ขยายหรือสืบพันธุ์ด้วยการสร้างสปอร์ (spore) เมื่อสปอร์ลอยไปติดที่ที่มีความชื้น จากนั้นจะเจริญเติบโตและทำลายบริเวณนั้น

เชื้อรานอกบ้านมีหน้าที่ในการสลายของเสีย เช่น ใบไม้ ต้นไม้ หรือขยะ แต่เมื่อเชื้อราเข้ามาอยู่ในบ้านจะส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัย เนื่องจากสปอร์ของเชื้อราจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หายใจลำบาก คัดจมูก ผื่นคัน ภูมิแพ้ หอบหืด ปอดอักเสบจากภูมิแพ้ ระคายเคืองต่อตา จมูก หลอดลม ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ดังนั้นเราสามารถควบคุมเชื้อราได้โดยการป้องกันและกำจัดเชื้อราตั้งแต่แรกเริ่ม


 
เชื้อรามักจะเกิดบริเวณที่อับชื้น เช่น ผนังห้องน้ำ ฝ้า ขอบหน้าต่าง บริเวณรอยรั่วของหลังคา ท่อระบายน้ำแอร์ วิธีกำจัดเชื้อราง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองคือ เมื่อเกิดเชื้อราขึ้นกับพื้นที่หรืออุปกรณ์ใด ๆ แสดงว่ามีการรั่วซึม ชื้น ให้รีบทำบริเวณนั้นให้แห้งทันที สำหรับวัสดุผิวแข็งให้ล้างบริเวณที่เป็นเชื้อราด้วยน้ำสบู่และทำให้แห้ง หากเป็นพรม ฝ้า หรือวัสดุที่มีรู เมื่อเกิดเชื้อราให้โยนทิ้ง เพราะเราไม่สามารถทำความสะอาดเชื้อราที่อาศัยอยู่ในนั้นได้

ที่สำคัญไม่ควรทาสีบนอุปกรณ์ที่มีเชื้อรา ควรทำความสะอาดและทำให้แห้งแล้วจึงทาสีทับ ทั้งนี้ อย่าลืมป้องกันตัวเองระหว่างปฏิบัติงาน เช่น สวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 เพื่อป้องกันการหายใจเอาเชื้อราเข้าไป หรืออาจจะใช้หน้ากากที่มีคุณภาพสูงกว่า ใส่ถุงมือยาวเป็ถุงมือยางเพื่อป้องกันเชื้อมาสัมผัส ใส่แว่นตาป้องกันเชื้อกระเด็นเข้าตา

สำหรับวิธีการป้องกัน เมื่อเกิดความชื้นขึ้นต้องแก้ไขรอยรั่วหรือซึมทันที ด้วยการล้างหรือทำให้บริเวณที่เปียกชื้นให้แห้งโดยทันที , ดูแลรางน้ำบริเวณหลังคามิให้มีสิ่งแปลอกปลอมที่จะขวางทางเดินของน้ำ , ตรวจสอบสนามหญ้าในบ้านว่ามีความลาดเอียงถูกต้องหรือไม่ เพื่อมิให้เกิดน้ำขังบริเวณบ้าน , ตรวจสอบเครื่องปรับอากาศว่าถาดรองน้ำมีสิ่งที่จะทำให้เกิดน้ำขังหรือไม่ , ตรวจสอบสายระบายว่าอุดตันหรือไม่ , รักษาความชื้นภายในบ้านให้ต่ำกว่า 60% (อาจจะซื้อเครื่องมือตรวจความชื้น) , หากคุณพบว่ามีคราบน้ำจับที่กระจก และรีบเช็ดให้แห้งพร้อมทั้งหาว่ามีน้ำรั่วที่ใดและให้รีบแก้ไข

นอกจากนี้ การลดความชื้นภายในบ้านก็สำคัญ อาทิ อย่าตากผ้าไว้ในบ้าน เตาต้มน้ำ ทำกับข้าว,ใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องลดความชื้น , ใช้พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำหรือในห้องครัวเพื่อลดความชื้น , ให้อากาศภายในห้องถ่ายเทโดยการเปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศภายในบ้าน , เพิ่มอุณหภูมิห้องโดยการเปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามา , ใช้ผ้าพันวัสดุที่มีผิวเย็นเช่นโลหะ